ปฏิบัติต่อบุรพการีโดยทำหน้าที่ให้ถูกต้อง
จากหนังสือความจริงแห่งชีวิต - พระพรหมคุณาภรณ์(ป. อ. ปยุตฺโต)
(พระธรรมเทศนาเกี่ยวกับสัจธรรมและความตายที่มีในความไพเราะงดงาม
ประดุจดังวรรณคดีที่มีความเทียบอุปมาอุปมัยที่ทำให้เห็นภาพอย่างชัดเจน)
ในส่วนแรกคือ การบำเพ็ญกุศล ที่มีการทำความดีต่างๆนี้
กล่าวได้ว่า เ้ป็นการบำเพ็ญ หน้าที่ต่อกัน ท่านเรียกว่า เป็นการบำเพ็ญ
ญาติธรรม คือธรรมต่อญาติ หรือพูดง่ายๆ ว่า เป็นหน้าที่
ต่อญาติ คืคนเรานั้นที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันเป็นญาติพี่น้องกันย่อมมีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติต่อกัน
ในยามมีชีวิตอยู่ หน้าที่ต่อกัน ก็เป็นไปต่างๆ สุดแต่ว่า จำดำรงอยู่ในฐานะแห่งความสัมพันธ์อย่างไหน เช่นบิดา
มารดา หรือเป็นญาติ เป็นพี่น้อง เป็นครูอาจารย์ เป็นต้น เราก็ปฏิบัติไปตามหน้าที่ ที่สมควรกับความสัมพันธ์อันนั้น
นี่เป็นหน้าที่ส่วนที่มนุษย์เราจะต้องปฏิบัติอยู่แล้ว ซึ่ง เรียกว่า ญาติธรรม รวมไปถึงมิตรธรรม และสังคหธรรม คือการ
สงเคราะห์กันในหมู่ชาวโลกด้วย
แต่ในเวลาที่ท่านเหล่านั้นล่วงลับ หรือพลัดพรากจากไปแล้วการปฏิบัติหน้าที่ต่อกัน
อย่างที่เคยทำเมื่อยังอยู่นั้น เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ ก็ต้องอาศัยวิธีปฏิบัติในทางพระศาสนา
ที่ เรียกว่า เป็นการบำเพ็ญกุศลอุทิศแด่ท่านผู้ล่วงลับไปแล้ว
การบำเพ็ญกุศลอุทิศแด่ผู้ล่วงลับไปแล้วนี้ จึงเรียกว่า เป็นญาติธรรมต่อทานผู้ล่วงลับไปแล้ว
เป็นข้อปฏิบัติเท่าที่มนุษย์เราจะถึงทำได้ และแสดงน้ำใจได้ต่อท่านที่ล่วงลับไปแล้ว
โดยเฉพาะสำหรับ ท่านผู้มีพระคุณเป็นบุรพการี เป็นบิดา มารดานั้น
การกระทำที่เป็นการปฏิบัติในญาติธรรมนี้ยังเรียกว่า ส่วนหนึ่งว่า เป็นการแสดงความกตัญญุกตเวทีอีกประการหนึ่ง
ด้วยถือว่าเป็นการแสดงน้ำใจระลึกถึงพระคุณของท่าน ไม่ได้ทอดทิ้งท่าน เมื่อท่านยังอยู่
เราก็แสดงน้ำใจเอื้อเฟื้อโดย ทางวัตถุสิ่งของและการแสดงออกที่เป็นรูปธรรม ซึ่งเรียกว่า
เป็นการปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนของพระวพุทธเจ้า ดังที่ทรงแสดงไว้ว่า สำหรับบิดามารดานั้น
ถ้าท่านยังมีชีวิตอยู่ เมื่อท่านแก่เฒ่าลง ท่านเลี้ยงดูเรามาแล้ว เราก็เลี้ยงดูท่านตอบแทน
นอกจากการเลี้ยงดูตอบแทนท่านแล้ว ยังสามารถตอบแทนพระคุณในฐานะอื่นได้อีกมาก เช่น ท่านมีกิจธุระอะไร
เราพอจะมีกำลังช่วยเหลือได้แล้ว ก็ทำธุระนั้นๆ แทนท่าน หรือรับใช้ท่านในกิจธุระเหล่านั้น
ในแง่ของความประพฤติ ต้องประพฤติตนให้ดี
ตั้งอยู่ในความเป็นพลเมืองดี เป็นทายาทที่ดี เพื่อให้เกิดความเบาใจแก่บิดามารดา เพราะว่า ความเป็นคนดีนั้น
เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้บิดามารดามีความสบายอกสบายใจต่อลูก
ลูกสามารถ รักษาน้ำใจของพ่อแม่ได้ด้วย การดำรงอยู่ในโอวาท หรือประพฤติตนเป็นคนดี
ข้อสำคัญที่จะเกี่ยวเนื่องต่อไป ก็คือ บุตรธิดานั้น จะต้องเป็นผู้ที่สืบมรดกหรือสืบวงศตระกูล การที่จะเป็นผู้สืบวงศ์ตระกูลต่อไปได้นั้นจะต้องเป็นคนดี
เช่น เป็นคนที่มีความขยันหมั่นเพียร เป็นต้น
ธรรมดา บิดามารดานั้นย่อมมีความหวังจากลูกว่า จะให้เป็นทายาทสืบตระกูล
รักษาทรัพย์ มรดก แล้วก็ทำให้วงศ์ตระกูลนั้นมีชื่อเสียง
ดำรงอยู่ในความดีงาม เมื่อเห็นลูกประพฤติดี
พ่อแม่ก็มีความเบาอกเบาใจ หรือมีความสุข และมั่นใจว่าลูกจะรักษาวงศ์ตระกูลไว้ได้ในทางตระกันข้าม
ถ้าเห็นลูก ประพฤติไม่ดี พ่อแม่ก็ย่อมมีความทุกข์เป็นอันมาก จนกล่าวได้ว่า ความสุขความทุกข์
ของพ่อแม่นั้น ฝากไว้กับลูกเป้ฯอย่างยิ่งทีเดียว ดังนั้นถ้าว่าลูกประพฤติตนเป็นคนดี
เป็นคนที่มีความเจริญก้าวหน้า พ่อแม่ก็มีความสุขไปด้วย
การประพฤติตนเป็นคนดีของลูกนี้เกี่ยวโยงไปถึงการสืบต่อวงศ์ตระกูลด้วย ท่านจึงได้กำหนดข้อปฏิบัติไว้อีกอย่างหนึ่งโดยเฉพาะว่า จะต้องประพฤติตน
ให้เป็นผู้สมควรแก่ทรัพย์มรดกด้วย
ที่กล่าวมานี้ก็เป็นหลักธรรมต่างๆ เกี่ยวกับหน้าที่ของบุตรธิดาต่อบิดามารดา
ซึ่งท่านจะเน้นเป็นพิเศษในส่วนของข้อ่ปฏิบัติระหว่างบิดามารดายังมีชีวิตอยู่
โดยเฉพาะที่ว่า ท่านเลี้ยงดูเรามาแล้ว เราก็เลี้ยงดูท่านตอบแทน เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว
เราไม่สามารถแสดงน้ำใจในการที่จะเลี้ยงดูท่านตอบแทนได้
เพราะแม้แต่ร่างกายของท่านเราก็ไม่สามารถที่จะรักษาไว้ด้วย
เพราะฉะนั้น จึุงได้ทำตามวิธีที่เรียกว่า อุทิศกุศลให้ในเมื่อท่านล่วงลับไปล้ว
การอุทิศส่วนกุศลนี้ก็เป็นกิจประการหนึ่ง แต่มิใช่สิ้นสุดเพียงเท่านั้น
คือจะต้องเป็นเครื่องเตือนใจลูกต่อไป ให้ระลึกถึง
พระคุณความดีของท่าน พร้อมทั้งแนวทางความประสงค์ของท่านที่ตั้งใจจะให้ลูกทำสิ่งที่ดีงาม
แล้วพยายามที่จะประพฤติตามตัวอย่างเช่น
การรักษาวงศ์ตระกูล และรักษาชื่อเสียงเกียรติคุณของวงศ์ตระกูลเป็นต้น
ดังที่ได้กล่าวมานั้น แม่แต่กิจธุระอะไรต่างๆ ของท่านที่เคยทำแทนท่าน
เมื่อท่านล่วงลับไปแล้วอันใดที่ยังทำได้ก็ต้องทำต่อไป แต่จุดสำคัญก็คือในขณะเมื่อท่านล่วงลับไปแล้วใหม่ๆ นี้
จะเน้นการกระทำที่ปรากฎชัดคือการบำเพ็ญกุศลให้แก่ท่านผู้ล่วงลับไปแล้ว เป็นการแสดงน้ำใจต่อท่าน