ต้องรู้จักแยกแยะ ระหว่างภาษาคน ภาษาธรรม
จำกำหนดจดจำไว้ให้ดีว่า ภาษาคนนั้น เป็นอย่างหนึ่ง
ภาษาธรรมะนั้นเป็นอย่างหนึ่ง ภาษาคนก็คือภาษาโลกๆ
ภาษาของคนที่ไม่รู้ธรรมะพูดกันอยู่ ตามภาษาคนที่ไม่รู้ธรรมะ
ภาษาของคนที่ไม่รู้ธรรมะนี้เรียกว่า ภาษาคน
ส่วนภาษาธรรมะนั้นเป็นภาาที่คนเหมือนกันพูด
แต่ว่าได้เห็นธรรมะในส่วนลึก หรือเป็นธรรมะที่แท้จริง
แล้วพูดไปด้วยความรู้สึกอันนั้น จึงเกิดเป็นภาษาธรรมะขึ้นมา
ไม่เหมือนภาษาคน นี้เรียกว่า ภาษาธรรมะ
ภาษาจงมีอยู่เป็น 2 ภาษา คือภาษาคนอย่างหนึ่ง ภาษาธรรม
อย่างหนึ่ง ภาษาคนนั้นเอไปตามทางของวัตถุตาม
ทางที่รู้สึกได้ตามคนธรรมดารู้สึกและอาศัยวัตถุเป็นื้นฐาน
ไม่ได้อาศัยธรรมะเป็นพื้นฐาน จึงดูดแต่เรื่องวัตถุ
แต่เรื่องโลก พูดแต่เรื่องที่เห็นได้ด้วยตามธรรมดาสามัญชน
ส่วนภาษาธรรมนั้น เป็นไปในทางนามธรรมที่ไม่เห็นตัว
เนื่องด้วยวัตถุ ต้องมีปัญญาเห็นนามธรรมเหล่านั้นแล้ว
จึงจะพูดและให้ความหมายเป็น
จึงพูดกันอยู่แต่ในหมู่ผู้เห็นธรรม นี้ เป็นภาษาธรรมะ
ภาษานามธรรมที่เหนือไปจากวัตถุ