ธรรมปฏิสันถาร...?
ณ บัดนี้เราก็ได้มานั่งกันกลางดิน ซึ่งเข้าใจว่าบางแห่งไม่ได้นั่งกลางดิน บางแห่งก็ได้นั่ง
กันบนตึกราคาแสนราคาล้าน แต่เดี๋ยวนี้เรามานั่งกลางดินกัน ขอให้ทำในใจให้ถูกต้อง
มิฉะนั้น จะขาดทุน บางคนจะคิดว่า มันเสียเกียรติมานั่งกลางดิน แล้วก็โกรธ นี้มันคนโง่
ลืมไปว่า พระพุทธเจ้านั้นท่านประสูตรกลางดิน ท่านเป็นพระราชามหากษัตริย์แต่เวลาประสูติ
ประสูติกลางดินใต้โคนต้นไม้ แล้วเวลาท่านจะตรัสรู้ ก็จะตรัสรู้กลางดินใต้โคนต้นไม้อีก
เมื่อท่านสอน ก็สอนตามกลางดิน เพราะประชุมกันกลางดิน พบกันกลางดิน เดินทางอยู่
ก็พบ แล้วก็สอน...หยุดสอน แม้ว่าโรงธรรมก็พื้นดิน ทีนี้ที่อยู่ของท่าน กุฏิของท่าน ก็พื้นดิน
ไปดูได้แม้บัดนี้ แล้วในที่สุดท่านก็นิพพานกลางดิน ไม่ได้นิพพานที่บนกุฏิวิหาร โรงพยาบาล
อะไรที่ไหน...นิพพานกลางดิน
คิดดูเถิด ดินนี้มันเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าในลักษณะอย่างไร แล้วยังเกี่ยวข้องกับพระธรรม
คำสอนของพระพุทธเจ้า นี้เรียกได้ว่าเกิดกลางดิน เพราะสอนกันกลางดิน พระไตรปิฎกเกิดขึ้น
กันกลางดิน พระสงฆ์ก็มีความเป็นอยู่อย่างเรียกได้ว่าต่ำที่สุด กุฏิพื้นดิน วิหารพื้นดินทั้งนั้นเลย
ถ้าเป็นอย่างครั้งพุทธกาล นี่แผ่นดินจึงมีความหมายมาก เป็นที่เกิดแห่งสิ่งทั้งปวง มันยังเป็นที่
เกิดแห่งธรรมะ
เราได้มานั่งกลางดินอย่างนี้ เอามือลูบดินแล้วก็พอใจ พอใจเป็นพุทธานุสสติ ระลึกถึง
พระพุทธเจ้า...ประสูติกลางดิน ตรัสรู้สอนกลางดินอยู่กลางดิน นิพพานกลางดิน ขอให้ถือ
เอาประโยชน์อย่างนี้ให้ได้ให้เต็มที่ ให้มากเต็มที่เลยอยู่ที่บ้านก็คงจะหาโอกาสนั่งกลางดิน
ยาก เพราะว่ามีศาลามีอะไรสวยงาม เดี๋ยวนี้ศาลาของวัดเรานี้ ใช้กลางดินอย่างนี้รับแขก
ผู้มีเกียรติที่สุด ก็กลางดินอย่างนี้แหละ ตรงนี้แหละนายกรัฐมนตรี ก็มานั่งตรงนี้แหละ
เอาล่ะ เป็นอันว่าทำพุทธานุสสติระลึกถึงพระพุทธเจ้ากันเสียให้ดีเต็มที่ แล้วก็จำไป...
กลับไปบ้าน ว่ามาที่สวนโมกข์ได้นั่งกลางดินอย่างนี้ จำไปให้แม่นยำเลย...