คำว่า...ประยุกต์...คือ เอาไปใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ โดยมากเรารู้แต่ เอาไปใช้เป็นประโยชน์ไม่ได้ กันเสียโดยมาก เช่นที่ปรากฏอยู่ รู้ธรรมะมาก พูดได้มาก พูดได้กว้างขวาง แต่เอาไปใช้ให้เป็นประโยชน์ไม่ได้ก็มี ไม่สามารถจะเอาไปใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ก็มากเรื่องนี้อยากจะพูดให้ชัดเจน จนเอาไปใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ อย่างน้อยที่สุด เอาไปใช้พูดติดปากได้ก็ยังดี หมายความว่ามันมีความรุู้ที่ถูกต้อง ปากมันจึงพ่นออกมาเป็นคำพูด คำนั้น ซึ่งหมายถึงสิ่งนั้น
ที่แล้วๆมา เราก็ได้ทำให้เกิดคำพูด ที่ใช้เป็นคำอุทาน เป็นคำแสดงความรู้สึก เป็นคำด่าก็ยังได้ เช่นคำว่า ตัวกู-ของกู มันก็แสดงความรู้สึกไปในทางกิเลส ก็ได้ว่ามันเลว หรือมันย้อนกลับมาเป็นเรื่องด่าตัวเองว่า มันเห็นแก่ตัว เห็นแก่ตัวเอง เห็นแก่ตัวกู-ของกู ก็ได้ แล้วแต่ว่าอารมณ์ที่กลัดกลุ้มอยู่ในจิตนั้นมันมีอยู่อย่างไร
บัดนี้ก็อยากจะให้มี คำพิเศษมีความหมายมาก ดีมาก ใช้ประโยชน์ได้มาก และเป็นคำสูงสุด หรือเป็นคำสุดท้าย คือคำว่า...อตัมมยตา...ยังแปลกหูอยู่ แต่ถ้าพูดกันอยู่เสมอมันก็จะชินไปเอง อตัมมยตา คำนี้แปลตามตัวหนังสือแปลยาก จะอธิบายว่ามันหมายถึงอะไร ให้รู้จักความหมาย แล้วก็พูดเป็นภาษาบาลี ก็แล้วกัน
สุญญตา แปลว่า ว่าง ตถาตา แปลว่า เช่นนั้นเอง อตัมมยตา นี้ไม่แปล ถ้าแปล แปลเอาแต่ใจความนะ จำไว้ด้วยก็ได้ แปลว่า กูไม่เอา กับมึงแล้วโว้ย นั้นแหละคือ ความหมายของ อตัมมยตา อะไรที่มันทำให้เกิดความยุ่งยาก ลำบากไม่รู้จักจบจักสิ้น
อตัมมยตา เป็นเรื่องสูงสุดในทางธรรมะที่จะบรรลุ มรรค ผล นิพพาน กูไม่เอากับมึงแล้วโว้ย นี้หมายความ ในฝ่ายกิเลส ในฝ่ายวัฏฏสงสาร ในฝ่ายกองทุกข์ กูไม่เอากับมึงแล้วโว้ย แล้วก็เลิกกัน แล้วก็ไปเอาฝ่ายโน้น คือฝ่ายโลกุตตระ ฝ่ายเหนือโลกโดยประการทั้งปวง
ที่นี้เราก็หัด หรือเตรียมหัดไว้ตั้งแต่เดียวนี้ ให้เป็นเรื่องเล็กๆ เด็กๆ ที่บ้านที่เรือนที่ว่า ไม่เอากับมึงแล้วโว้ย มันก็ความหมายเดียวกัน กับอตัมมยตาที่สูงสุด ที่จะทำให้ละจากโลกนี้ไปสู่เหนือโลก กูไม่เอากับมึงแล้วโว้ย ก็หมายความว่า ไม่เอากับโลกนี้ มันก็ไปสู่โลกุตตระเหนือโลก มันต้องเป็นจุดเปลี่ยน เรียกเป็นภาษา วิทยาศาสตร์หน่อยก็เป็นจุดเปลี่ยน เป็น transition. อยู่ที่ตรงนั้น มันเปลี่ยน ไม่เอากับฝ่ายนี้อีกต่อไป ก็ไปเอากับฝ่ายโน้น...
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่