กฎการรักษาความสัมพันธ์ ทั้ง ๖ ทิศ เพื่อชีวิตที่เจริญรุ่งเรือง
ก. ทำทุกทิศให้เกษมสันต์
ปฏิบัติหน้าที่ต่อบุคคลที่สัมพันธ์กับตนให้ถูกต้องตามฐานะทั้ง ๖ คือ
ทิศที่ ๑ ในฐานะที่เป็นบุตรธิดา พึงเคารพต่อบิดามารดา ผู้เปรียบเสมือนทิศเบื้องหน้า ดังนี้
๑. ท่านเลี้ยงเรามาแล้ว เลี้ยงท่านตอบ
๒. ช่วยทำกิจธุระการงานของท่าน ดำรงวงศ์สกุล
๓. ดำรงวงศ์สกุล
๔. ประพฤติตนให้เหมาะสมกับความเป็นทายาท
๕. เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ทำบุญอุทิศให้ท่าน
บิดามารดาอนุเคราะห์บุตรธิดา ตามหลักปฏิบัติดังนี้
๑. บิดามารดาช่วยห้ามป้องกันจากความชั่ว
๒. ดูแลฝึกฝนอบรมให้ตั้งอยู่ในความดี
๓. ให้การศึกษาศิลปวิทยา
๔. เป็นธุระเมื่อถึงเคราวจะมีคู่ครองที่สมควร
๕. มอบทรัพย์สมบัติให้เมื่อถึงโอกาสอันควร
ทิศที่ ๒. ในฐานะที่เป็นศิษย์ พึงแสดงความเคารพนับถือครู อาจารย์
ผู้เปรียบเสมือนทิศเบื้องขวา ดังนี้
๑. ลุกต้อนรับ แสดงความเคารพ
๒. เข้าไปหา เพื่อบำรุง รับใช้ ปรึกษา ซักถา รับคำแนะนำ เป็นต้น
๓. ฟังด้วยดี ฟังเป็น รู้จักฟังให้เกิดปัญญา
๔. ปรนนิบัติ ช่วยบริการ
๕. เรียนศิลปวิทยาโดยเคารพ เอาจริงเอาจัง ถือเป็นกิจสำคัญ
อาจารย์ผู้อนุเคราะห์ศิษย์ ตามหลักปฏิบัติดังนี้
๑. แนะนำฝึกอบรมให้เป็นคนดี
๒. สอนให้เข้าใจแจ่มแจ้ง
๓. สอนศิลปวิทยาให้สิ้นเชิง
๔. ส่งเสริมยกย่องความดีงามความสามารถให้ปรากฏ
๕. สร้างเครื่องคุ้ภัยในสารทิศ คือสอนฝึกศิษย์ให้ใช้วิชาเลี้ยงชีพได้จริง
และรู้จักดำรงตนด้วยดี ที่จะประกันให้ดำเนินชีวิตดีงามโดยสวัสดี มีความสุขความเจริญ
ทิศที่ ๓ ในฐานะที่เป็นสามี พึงให้เกีรติบำรุงภรรยา
ผู้เปรียบเสมือนทิศเบื้องหลัง ดังนี้
๑. ยกย่องให้เกียรติสมฐานะที่เป็นภรรยา
๒. ไม่ดูหมิ่น
๓. ไม่นอกใจ
๔. มอบความเป็นใหญ่ในงานบ้านเรือน
๕. หาเครื่องแต่งตัวมาให้เป็นของขวัญตามโอกาส
ภรรยาอนุเคราะห็สามี ตามหลักปฏิบัติดังนี้
๑. จัดงานบ้านให้เรียบร้อย
๒. สงเคราะห์ญาติมิตรทั้งสองฝ่ายด้วยดี
๓. รักษาทรัพย์สมบัติที่หามาได้
๔. รักษาทรัพย์สมบัติที่หามาได้
๕. ขยัน ช่างจัดช่างทำ เอางานทุกอย่าง
ทิศที่ ๔ ในฐานะที่เป็นมิตรสหาย พึงปฏิบัติต่อมิตรสหาย ผู้เปรียบเสมือน
ทิศเบื้องซ้าย ดังนี้
๑. เผื่อแผ่แบ่งปัน
๒. พูดจามีน้ำใจ
๓. ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
๔. มีตนเสมอ ร่วมสุขร่วมทุกข์ด้วย
๕. ซื้อสัตย์จริงใจ
มิตรสหายอนุเคราะห์ตอบ ตามหลักปฏิบัติดังนี้
๑. เมื่อเพื่อประมาท ช่วรักษาป้องกัน
๒. เมื่อเพื่อนประมาท ช่วยรักษาทรัพย์สมบัติของเพื่อน
๓. ในคราวมีภัย เป็นที่พึ่งได้
๔. ไม่ละทิ้งในยามทุกข์ยาก
๕. นับถือตลอดถึงวงศ์ญาติของมิตร
ทิศที่ ๕ ในฐานะที่เป็นนายจ้าง พึงบำรุงคนรับใช้ และคนงาน
ผู้เปรียบเสมือน ทิศเบื้องล่าง ดังนี้
๑. จัดงานให้ทำตามความเหมาะสมกับกำลัง เพศ วัย ความสามารถ
๒. ให้ค่าจ้างรางวัลสมควรแก่งานและความเป็นอยู่
๓. จัดสวัสดิการดี มีช่วยรักษาพยาบาลในยามป่วยไข้เป็นต้น
๔. ให้มีวันหยุด และพักผ่อนหย่อนใจ ตามโอกาสอันควร
คนรับใช้ และคนงาน แสดงน้ำใจต่อนายจ้างดังนี้
๑. เริ่มทำงานก่อน
๒. เลิกงานทีหลัง
๓. เอาแต่ของที่นายให้
๔. ทำการงานให้เรียบร้อยและดียิ่งขึ้น
๕. นำความดีของนายจ้างงานและกิจการไปเผยแพร่
ทิศที่ ๖ ในฐานะ เป็นพุทธศาสนิกชน พึงแสดงความเคารพนับถือ
ต่อพระสงฆ์ ผู้เปรียบเสมือน ทิศเบื้องบน ดังนี้
๑. จะทำสิ่งใด ก็ทำด้วยเมตตา
๒. จะพูดสิ่งใด ก็พูดด้วยเมตตา
๓. จะคิดสิ่งใด ก็คิดด้วยเมตตา
๔. ต้อนรับด้วยความเต็มใจ
๕. อุปถัมภ์ด้วยปัจจัย๔
พระสงฆ์อนุเคราะห์คฤหัสถ์ ตามหลักปฏิบัติดังนี้
๑. ห้ามปรามสอนให้เว้นจากความชั่ว
๒. แนะนำสั่งสอนให้ตั้งอยู่ในความดี
๓. อนุเคราะห์ด้วยความปรารถนาดี
๔. ให้ได้ฟังได้รู้สิ่งที่ยังไม่เคยได้รู้ ไม่เคยฟัง
๕. ชี้แจงอธิบายทำสิ่งที่เคยฟังแล้วให้เข้าใจแจ่มแจ้ง
๖. บอกทางสวรรค์ สอนวิธีดำเนินชีวิตให้มีความสุขความเจริญ
อ้างอิงค์จากหนังสือ เรื่อง วินัยชาวพุทธ (ป. อ. ปยุตฺโต)