ควรทำงานอย่างไร
ทีนี้เมื่อคนทำงานไปตามความหมายและความเข้าใจของเขา ความหมาย
ของงานตามที่เขาเข้าใจนั้น ก็มีผลต่อพฤติกรรมในการทำงาน และส่งผล
ต่อความรู้สึกและต่อจิตใจในการทำงานของเขาด้วย
เราเข้าใจการทำงานอย่างไร เราก็มุ่งหวังผลสนองไปตามความหมายนั้น
ถ้าเกิดผลสนองตามความมุ่งหมาย เราก็เกิดความพึงพอใจ ถ้าไม่สนอง
ตามความมุ่งหมาย ก็เกิดความเศร้าเสียอกเสียใจ เพราะฉะนั้น ความเข้าใจ
ในความหมายของงานจึงมีผลกระทบต่อชีวิตจิตใจของเรามาก
ตัวอย่างเช่น คนที่ทำงานหมายความที่เป็นเพียงเครื่องมือหาเลี้ยงชีพ
ให้ได้ผลตอบแทน ให้ได้ผลประโยชน์ ถ้าไม่ได้ผลประโยชน์มาก หรือ
ได้มาน้อยไป เขาก็จะรู้สึกไม่สมหวัง ไม่พอใจ เกิดความทุกข์ เพราะว่า
ความมุ่งหมายในการทำงานของเขา ไปอยู่ที่ผลประโยชน์ตอบแทน คือ
เรื่องเงินทองเป็นต้น การที่เขาจะมีความสุขหรือความทุกข์ ก็อยู่แค่นั้น
ทีนี้ ถ้ามองความหมายของงานไปในแง่ว่า เป็นการทำหน้าที่หรือบำเพ็ญ
ประโยชน์เพื่อสังคมประเทศชาติ สำหรับคนที่มองอย่างนี้ บางทีแม้ว่าผล
ประโยชน์ตอบแทนอาจไม่มากนัก แต่ความพึงพอใจของเขาอยู่ที่ว่า งาน
นั้นทำให้เกิดประโยชน์แก่สังคม ดังนั้น ถ้าเห็นว่างานของเขาได้ช่วยสังคม
เขาก็มีความสุข ความรู้สึกในใจจึงสัมพันะ์กับการมองความหมายของงาน
คนที่มองงานในแง่ของการพัฒนาตน หรือพัฒนาศักยภาพ เวลาทำงานก็
จะเพลินไปกับงาน เพราะในเวลาที่ทำงานเราได้ฝึกตัวของเราอยู่ตลอดเวลา
เมื่อทำงานไป เราก็ได้ความรู้ความสามารถ เพิ่มพูนความชำนานมากขึ้น
ส่วนเรื่องที่ว่าจะได้ผลประโยชน์ตอบแทนมากน้อย เราจะไม่คำนึงมากนัก
แต่เราจะมีความพึงพอใจ ในการได้พัฒนาตนเองให้มีศักยภาพเพิ่มขยาย
เพราะฉะนั้น การเข้าใจความหมายของงาน จึงมีความสำคัญมากต่อสภาพ
จิตใจ
ตอนนี้ อยากจะพูดต่อความรู้สึกพื้นฐานทางวัฒนธรรมเกี่ยวกับเรื่องงานสัก
นิดหนึ่ง
เมื่อพูดถึงความหมายของงาน ถ้ามองวัฒนธรรมไทยและนำไปเทียบกับ
วัฒนธรรมตะวันตก จะเห็นว่าแตกต่างกัน และความแตกต่านั้นก็จะแสดง
ถึงพื้นฐานการสั่งสมฝึกอบรมจิตใจใของวัฒนธรรมที่ต่างวกัน
คนไทยเรามองคำว่างานกันอย่างไร ก่อนที่วัฒนธรรมตะวันตกเข้ามา
คนไทยเราใช้คำว่า งาน ในความหมายที่ไม่เหมือนปัจจุบัน เรามีงานวัด
เรามีงานสงกรานต์ เรามีงานกฐิน เรามีงานทอดผ้าป่า
คำว่างานในความหมายของคนไทย เป็นกิจกรรมเพื่อความสนุกสนาน
เพื่อความบันเทิง อย่างงานวัดเป็นเรื่องสนุกทั้งนั้น มีมหรสพ มีละคร
หนังลิเก ในงานสงกรานต์เราก็ไปสนุกกัน เอาน้ำไปอาบให้กัน ไปเล่น
อะไรต่ออะไรครึกครื้น
แต่ความจริงงานมีความหมายที่ซ่อนอยู่ลึกกว่านั้น คือ เป็นเรื่องการทำ
ความดี กิจกรรมที่เป็นหลักเป็นแกนของงาน ก็คือ การทำบุญ ทำการ
กุศล หรือบำเพ็ญความดีอย่าง โดยเฉพาะการมาร่วมร่วมกันทำประโยชน์
บางอย่างเพื่อส่วนรวม แม่แต่งานสงกรานต์ ก็มีกิจกรรมที่เป็นการทำบุญ
ทำกุศลอยู่ รวมทั้งการขนทรายเข้าวัด
ดังนั้น การทำงานจึงมีความหมายในเชิงที่เป็นกิจกรรมในการทำความดีบาง
อย่าง หรือเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางศาสนา แต่ส่วนหนึ่งที่ปนอยู่ ด้วยก็คือ
ความสนุกสนานบันเทิง ซึ่งเป็นส่วนที่หลงเหลือมาถึงปัจจุบันในคนไทยส่วน
มาก
พูดรัดว่า ความหมายของงานที่เป็นไปตามวัฒนธรรมไทยนี้เหลือมาในรูปของ
ความสนุกสนานเป็นหลัก
ทีนี้ ในแง่ของสังคมตะวันตก การทำงานแบบตะวันตกเข้ามาพร้อมกับวัฒนธรรม
ตะวันตกนั่นเอง
ตามความหมายแบบตะวันตก งานคืออะไร
งานในความหมายของตะวันตกนั้น เรียกว่า work และมีความสำคัญที่คู่กับ work
เป็นคำตรงข้ามกับ work ซึ่งช่วยให้ความหมายของ work เด่นชัดขึ้นมาด้วย คือ
คำว่า leisure แปลว่า การพักผ่อนหย่อนใจ
งานในความหมายของฝรั่ง เป็นคู่กัน และตรงข้ามกับการพักผ่อนหย่อนใจ เพราะ
ฉนั้น วัฒนธรรมตะวันตกจึงมองว่าเป็นเรื่องของความเหน็ดเหนื่อย ลำบากตรากตรำ
เป็นเรื่องที่ต้องทนทำด้วยความทุกข์ยาก และก็จึงต้องมีสิ่งที่เป็นคู่กันเพื่อทดแทน
คือการพักผ่อนหย่อนใจ
ตามวัฒนธรรมของฝรั่งนี้ คนเราต้องทำงาน เสร็จแล้วก็ไปพักผ่อนหย่อนใจ เพื่อช่วย
ทดแทนชดเชยหรือผ่อนระบาย ดังนั้น งานจึงเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความเคลียดได้มาก
และถ้าเราตั้งท่าไว้ไม่ดี มีท่าทีของจิตใจไม่ถูกต้อง คือไม่มีความรักงาน เราก็จะทำงาน
ด้วยความเหนื่อยหน่ายและอยากจะหนีงาน งานกลายเป็นสิ่งที่หนักหนา ต้องเผชิญ
ต้องผจญ ต้องสู้
เมื่อมองอย่างนี้ คนเราจึงต้องหาทางหลีกเลี่ยงไปเสียจากงาน ต้องการให้งานเลิก
หรือจะหนีจากงานเพื่อไปหาการพักผ่อน อันเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไข
ด้วยเหตุนี้ จึงต้องมีจริยธรรมที่เข้าชุดเป็นคู่กัน คือว่า คนในวัฒนธรรมตะวันตก
ซึ่งทำงานแบบตะวันตก จะต้องสร้างนิสัยรักงานขึ้นมาให้ได้ พอรักงาน ก็มีใจสู้
และทนต่อความหนักความเหน็ดเหนื่อยของงานได้
เป็นอันว่า ความหนักและความเหน็ดเหนื่อย เป็นลักษณะงานแบบตะวันตก
คนไทยรับเอาความหมายคำว่า "งาน" ในแง่ที่เป็นความหนักหนาเหนื่อยมา
จากตะวันตก โดยไม่ได้รับเอานิสัยรักงานมาด้วย แต่เรามีนิสัยรักสนุก ที่สั่ง
สมมากัยบความหมายของงานในวัฒนธรรมความหมายของเราเอง
ในสภาพแห่งความนุงนังและสับสนของวัฒนธรรมอย่างนี้ ถ้าปรับตัวไม่ดี
เราจะเสียทั้งสองด้าน คือ ตัวเองก็รักความสนุกสนานตามความหมายของ
งานแบบเก่า เราจะมุ่งหาแต่ความสนุกสนาน พอเจองานแบบตะวันตกที่
หนักและไม่สนุก ตัวไม่มีนิสัยรักงาน ก็อยากจะหนีงานไป แต่เมื่อต้องทำ
หนีไม่ได้ ก็ต้องจำใจฝืนใจหรืสักว่าทำ
ลงท้าย ที่ว่าเสียทั้งสองด้าน คือ งานก็ไม่ได้ผล คนก็เป็นทุกข์
เพราะฉะนั้น ถ้าจะให้ดี ก็ต้องแก้ไขให้ถูกต้อง ความหมายที่ดีของเราใน
วัฒนธรรมเก่าว่า งานเป็นกิจกรรมเพื่อส่วนรวม เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์อะไร
สักอย่างหนึ่ง โดยมีความสนุกสนานเป็นผลพ่วงมา หรือเป็นผลพลอยได้
เราก็รักษาไว้ และในเวลาเดียวกัน งานในความหมายที่ยากที่หนัก ต้องสู้
ต้องทำด้วยความเหน็ดเหนื่อยนี้ เราก็ยินดีต้อนรับไม่ถอยหนี
จะต้องแก้ปัญหาให้ได้ว่า ทำอย่างไรจึงจะให้การทำงานเป็นไปด้วยดี
ทั้งยังมีน้ำใจเผื่อแผ่นึกถึงส่วนรวมไว้ แล้วก็มีนิสัยรักงานสู้งานมาช่วย
สนับสนุนด้วย
ถ้าแก้ให้งานอย่างนี้ได้ ก็จะกลับร้ายกลายเป็นดี แทนที่จะเสียทั้งสองด้าน
ก็กลายเป็นได้ทั้งสองทาง คือ งานก็ได้ผล คนก้เป็นสุข
.......................................................................
คัดลอกมาจาก
หนังสือเรื่อง เล่าเรียนทำงานกันไปชีวิตได้อะไร
ท่านสามารถดูรายละเอียดหนังสือเล่มนี้//สั่งซื้อได้ที่