ความรักสัมผัสได้ด้วยใจ
ง า น ส ร้ า ง ชี วิ ต
มีความเสี่ยงเหมือนพายเรือในทะเลหลวง บางครั้ง . . . ก็ราบรื่น แต่บางครั้งคลื่นลมก็โหมกระหน่ำรุนแรงเกินกำลังจะทนทาน
มรสุมในทะเลเหมือนมรสุมของชีวิต
. . . เรือต้องแข็งแรงไม่บอบบาง เหมือนเราต้องแกร่งกล้าคราวเผชิญอุปสรรคปัญหา เราท้อแท้อ่อนแอเมื่อไร เมื่อนั้นเรือชีวิตก็จะอับปางทันที
ทุกชีวิตล้วนพบอุปสรรคปัญหา...มิใช่มีเพียงแต่เรา
. . . อ า จ ดู เ ห มื อ น ใ ห ญ่ ห ล ว ง . . . แต่คนอีกจำนวนมากอาจเป็นจริงยิ่งกว่านิยาย อาจโหดร้ายกว่าเรา
อุปสรรคขวากหนามทางอารมณ์ เป็นปัญหาหลักของชีวิต
มรสุมคลื่นลม . . . เปรียบเสมือนอารมณ์ของเรา . . . เราต้องตั้งสติให้มั่นคง ฉลามร้าย เปรียบเสมือนอารมณ์แห่งราคะ ตัณหา เปรียบเสมือนอารมณ์แห่งความโลภ คลื่นลม เปรียบเสมือนอารมณ์แห่งโทสะ ทะเลลึก เปรียบเสมือนอารมณ์แห่งโมหะ คื อ . . . ค ว า ม ลุ่ ม ห ล ง ข า ด ส ติ
เมื่ออาสาจับมือกันทำงานสร้างชีวิต
จิตใจต้องตั้งสติมั่น...เป้าหมายและหลักชัยต้องชัดเจน
การเดินทางที่ไร้เป้าหมาย...อันตราย
แม้จะถึงเป้าหมายแล้ว เราอาจไม่รู้ว่านั่นคือเป้าหมายของตนก็ได้ ใ น ที่ สุ ด . . . ก็หาความสมหวังในชีวิตไม่ได้
เราต้องหัดพอใจในบางสิ่งและบางขณะ
เพราะความพอใจ . . . เป็นความสุข เหมือนการเดินทาง . . . . เหนื่อยแล้วได้หยุดพักบ้างเมื่อมีแรงค่อยเดินต่อไป
การหยุดพักจะทำให้ได้นิ่งคิด
ปัญหาต่างๆ ล้วนแก้ไขได้เมื่อเรานิ่ง ยิ่งครุ่นคิด . . . ยิ่งขุ่นมัว เหมือนน้ำไม่นิ่ง ละอองฝุ่นไม่ตกตะกอน
การเดินทางที่มีเป้าหมาย
แม้เพียงสร้างชีวิต . . . ต้ อ ง มี เ ป้ า ห ม า ย ชัยชนะของคนๆหนึ่ง เริ่มต้นมีเป้าหมายในความคิด การเดินทางที่มีเป้าหมาย แม้เพียงก้าวแรกที่ย่างเท้า
ก็ ย่ อ ม มั่ น ใ จ ว่ า . . . ถึงจุดหมายปลายทางแน่นอน
งานสร้างครอบครัว . . .
เริ่มต้นจากคนสองคน ที่นำจิตใจและร่างกายมาผสมผสาน . . . ใ ห้ เ ป็ น ห นึ่ ง เ ดี ย ว ลูกที่เกิดตามมาคือรางวัลชีวิตที่มีชีวิต ซึ่งบรรจงสร้างให้เป็นหนึ่งเดียวทั้งร่างกายและจิตใจ ลูกเป็นของแท้มิใช่ชองปลอม...เป็นชีวิตแท้ๆ เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ต้องการพ่อแม่ดูแลฟูมฟักเลี้ยงดู
ลูกคือรางวัลชีวิตที่ยิ่งใหญ่
ที่มนุษย์ตัวน้อยอย่างเราสามารถสร้างขึ้นมาได้ ลูกจึงเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่มนุษย์สามัญอย่างเรา สามารถเนรมิตและจินตนาการได้
แ ต่ วั น นี้ . . .
เมื่อเราไม่สนใจไม่ใส่ใจในตัวเขา ชีวิตเขาก็อาจจะเป็นเพียงซากชีวิตที่ไร้วิญาณก็ได้
จากงานสร้างชีวิต สร้างครอบครัว
มาถึง . . . งานสร้างคน . . . คนที่เป็นเลือดก้อนหนึ่ง หากวันหนึ่งขาดที่พึ่งอะไรจะเกิดขึ้น เราจะละทิ้งรางวัลอันงดงามที่เราร่วมกันบรรจงสร้างขึ้นมา . . . ด้วยความรักบริสุทธิ์อย่างนั้นหรือ
พ่อแม่...คือแบบอย่าง
พ่อแม่...คือพิมพ์ชีวิตที่สำคัญที่สุดของลูก อย่าให้เขาเหมือนเราเพียงรูปร่างหน้าตา . . . ต้องเหมือนทั้งกิริยาและความคิดด้วย
งานสร้างชีวิตเป็นงานหนัก
เป็นงานที่ไม่อาจเรียกร้องความช่วยเหลือจากใครได้ตลอดเวลา คนอื่นอาจช่วยเราได้ แต่ไม่ใช่ทุกเรื่อง การหวังพึ่งคนอื่นตลอดเวลา ยิ่งจะทำให้เราอ่อนแอ
คนจะช่วยเรา ต่อเมื่อเห็นว่า . . .
เรามุมานะบากบั่นช่วยเหลือตัวเองก่อน นี่เป็นสัจจธรรม
การสร้างที่พึ่งให้แก่ตัวเอง
เริ่มต้นที่การอดทน . . . อดกลั้น . . . อดออม และ . . . ยอมเสียความรู้สึก
การเสียในบางครั้ง อาจเป็นการได้กำไรมหาศาลในชีวิต
การยอมแพ้บางคราว อาจเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ ไม่มีใครเอาชนะเราได้ ตราบใดที่เรายังไม่แก้ภัยในใจตน ภัยร้ายที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์
คื อ ก า ร ไ ม่ รู้ ว่ า ต น เ อ ง โ ช ค ดี
ค น ส่ ว น ใ ห ญ่ . . .
มักมองคนใกล้ชิดเป็นอุปสรรคขวากหนาม เราจำเป็นต้องเปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนวิธีคิด จากเดิมที่คิดขุ่น หัดมาคิดใสๆ ทำใจดีๆ
มนุษย์จะมีความสุขหรือทุกข์
จะมีชัยชนะหรือพ่ายแพ้อยู่ที่วิธีคิด วิธีคิด . . . คือ . . . จุดกำเนิดของปัญญา
ความสามารถของคนไม่มีอะไรต่างกันมากนัก
แต่ที่คนต่างกันเพราะวิธีคิด วิธีคิด . . . ฝึกได้ เรียนรู้ได้ และเอาอย่างได้
การมองโลกในแง่ดีกับแง่ร้าย ทำให้พื้นฐานของใจต่างกัน
การมองโลกในแง่ร้ายตลอดเวลา เหมือนการนำเหล็กไปแช่สนิม แต่การมองโลกในแง่ดีเสมอ เหมือนการขัดสนิมออกจากเหล็ก
สนิมในใจกัดกร่อนความคิดและสติปัญญาของเรามาก
ไม่มีใครสามารถช่วยเราได้ หากวันนี้...เราไม่ลุกขึ้นมาต่อสู้ ขัดเกลาสนิมในใจ เพราะใจเราก็เป็นของเรา . . . มิใช่ของใครอื่น
บางครั้ง . . . ที่มนุษย์เราเป็นทุกข์
ก็เพราะเมื่อใจเป็นสนิมแล้วต้องการและคาดหวัง จะให้คนนั้นคนนี้มาเห็นใจ เราเข้าใจตน เข้าข้างตนมากที่สุด การฝากความหวังไว้กับคนที่ไม่สมหวัง เราจะผิดหวังยิ่งกว่าเขา เราต้องยืดอกสู้กับปัญหา...ยิ้มท้าทายปัญหารอบด้านให้ได้ ปัญหาทุกอย่างกลัวคนจริง แต่จะตามบดขยี้คนเหยาะแหยะ ใจเสาะ
เราต้องค้นหาปัญญาจากปัญหาที่เกิดขึ้นให้ได้
เพราะในความมืดอาจมีจุดสว่าง ในความไม่ดีของคนๆหนึ่ง . . . อาจมีสิ่งดีอีกมากมาย เพียงแต่เราเพ่งมองให้ชัดเท่านั้นเอง
. . . ก่ อ น จ ะ นึ ก ตํ า ห นิ ใ ค ร . . .
ขอให้นึกถึงความดีของคนคนนั้นก่อน การย้ำคิดแต่สิ่งที่ไม่ดี อาจทำตาของเรามืดบอดไปด้วย
บางครั้ง เราต้องยอมคิดรวบยอดเพื่อแก้ปัญหาที่แก้ไม่ได้
นั่นคือคิดว่า ไม่มีคนที่ดีที่สุด ไม่มีสิ่งที่เลวที่สุด
แ ล ะ . . . ไ ม่ มี ค น เ ล ว ที่ สุ ด
ปัญหาทุกอย่างมีทางออกเสมอ
เช้าวันนี้ท้องฟ้าสว่างงดงามเพราะอาทิตย์ทอแสง แต่อีกไม่นานก็จะมืด และอีกหน่อยก็จะสว่าง ปัญหาที่เกิดขึ้นวันนี้ใช่ว่าจะมืดบอดตลอดไป จะต้องมีแสงอุทัยแห่งปัญญาเกิดขึ้นกับเราในวันหนึ่ง
ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้เสมอ
เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับปัญหา การหนีปัญหาจะทำให้เราพ่ายแพ้
แต่การกล้าเผชิญปัญหา จะทำให้เราได้รับชัยชนะ
การอยู่ร่วมกันต้องพึ่งพาอาศัยกัน
เหมือน หู ตา จมูก ลิ้น หัวใจ มันสมอง และอวัยวะอื่นๆ . . . ต้องอาศัยกัน มิใช่สิ่งใดสิ่งหนึ่งดีได้ตนเองเพียงอย่างเดียว
ความเป็นคนอยู่ที่การรวมตัว
และทำหน้าที่อย่างสมบรูณ์ของอวัยวะทุกส่วน ฉันใด ความเป็นครอบครัว ก็อยู่ที่การร่วมมือกันของคนทุกคน ฉันนั้น
ความรัก . . . อาจจะเปลี่ยนเป็นร้ายได้ในพริบตาเดียว
หากขาดความไว้วางใจกัน ขาดความซื่อสัตย์จริงใจต่อกัน ความซื่อสัตย์จริงใจ . . . ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่สุดในการสร้างชีวิต
ความซื่อสัตย์จริงใจต่อกัน
เปรียบเสมือนความแข็งแกร่งของเรือและเสากระโดง เมื่อเรือแข็งแกร่ง . . . แม้ลมจะแรงคลื่นจะโหมกระหน่ำ เรายังอาจช่วยกันประคองให้เข้าฝั่งได้ เมื่อใดเรือเปราะบางเสียแล้ว . . . ก็ ย า ก จ ะ ห า ท า ง นํ า เ รื อ ไ ป ถึ ง ฝั่ ง ไ ด้
การใช้ชีวิตร่วมกันระหว่างคนสองคน เป็นเรื่องละเอียดอ่อน
ความรัก . . . กับ . . . ความใคร่ต่างกัน ความใคร่ . . . มีชั่วขณะแรกคิด แต่ความรัก . . . ยิ่งคิดยิ่งอบอุ่นและอ่อนโยน ไม่มีจำกัดด้วยกาลเวลา ความรักสร้างขึ้นมาได้ด้วยความเข้าใจ เห็นใจ เอาใจใส่
ความรัก . . . คือ . . . สิ่งเล็กน้อยที่ยิ่งใหญ่
ต้องการปลูกความรักต้องโยนทิ้งผลประโยชน์ทั้งหมด ทำใจให้ว่างเปล่า เพื่อเพาะบ่มความรักขึ้นมาใหม่ ทำให้เหมือนเมื่อแรกพบกัน ก่อนจะตกลงกันสร้างชีวิตร่วมกัน
งานสร้างชีวิต ถือเป็นงานหลักของมนุษย์ทุกคน
ทุกคนมีครอบครัว ก็หวังให้ครอบครัวมั่นคง แต่เพราะความไม่มั่นคงต่ออุดมการณ์สร้างชีวิต ความไม่เอาใจใส่ต่ออารมณ์ของตนเองและคนอื่น จึงทำให้ครอบครัวล่มสลาย เหมือนเรือที่ถูกคลื่นลมกระหน่ำเพียงเบาๆ . . . ก็อับปาง
งานสร้างชีวิต . . .
คือการลงทุนครั้งสำคัญที่สุดของมนุษย์คนหนึ่ง พลาดแล้วอาจพลาดเลยตลอดชีวิต
ของอย่างอื่นเสียหายอาจซ่อมได้ แต่เมื่อจิตใจชำรุด . . . เราจะใช้อะไรซ่อม
ใจที่ชำรุด . . . ย่อมแห้งผาก เงียบเหงา วังเวง ว้าเหว่ ขาดที่พึ่ง
แม้จะอยู่ท่ามกลางญาติมิตรมากมาย ...ก็เหมือนอยู่เพียงตัวคนเดียว แม้จะอยู่เมืองใหญ่ก็ไม่ต่างกับอยู่กลางป่าช้า
เราสร้างชีวิต เพื่อต้องการกำไร มิใช่ขาดทุน
แต่น่าเสียดายที่บางคนขาดทุนยับเยินตั้งแต่เริ่มต้น แต่บางคน . . . ได้กำไรมหาศาล การประคองอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด
สำหรับการร่วมกันตั้งแต่คนสองคนขึ้นไป
ตัวชีวิตไม่ใช่การค้า . . .
แต่งานสร้างชีวิตอาจเปรียบได้เหมือนการค้า วันนี้อาจได้กำไรน้อย แต่ถ้าเราอดทน อดกลั้นไว้บ้าง วันหนึ่ง วันข้างหน้า อาจเป็นวันร่ำรวยมหาศาลของเรา ร่ำรวยความรัก ร่ำรวยความดี ร่ำรวยความสุข ร่ำรวยมิตรแท้ที่จริงใจ ร่ำรวยความไว้วางใจ ร่ำรวยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ สิ่ ง เ ห ล่ า นี้ ทุ ก ค น ส ร้ า ง ขึ้ น ม า ไ ด้
ชีวิตเริ่มต้นที่ความคิด เมื่อคิดก็เห็นช่องทาง
เมื่อคิดแต่เรื่องเดิมๆ พูดแต่เรื่องเก่าๆ เล่าแต่เรื่องไม่ดี ปัญหา . . . ย่อมไม่มีวันถูกแก้
เมื่อพูดถึงปัญหาบางอย่าง พึงพูดถึงวิธีแก้ปัญหาด้วย
เพราะปัญหาจะพอกพูนทันทีเมื่อเราย้ำพูดแต่ปัญหา เมื่อใดเราคิดวิธีแก้ปัญหาไปด้วย ปัญญาจะเกิดทันที
. . . ก า ร แ ก้ ปั ญ ห า บ า ง อ ย่ า ง . . .
เราต้องทำเหมือนไม่ได้ทำ พูดเหมือนไม่ได้พูด แต่ขอให้ทำทุกอย่างเป็นที่เราคิดก็พอ ปัญหาบางอย่าง อาจไม่ต้องการคำอธิบาย . . . หากแต่ต้องการความนิ่งสงบ เพราะความนิ่งมีพลังมหาศาลยิ่งกว่าพลังงานใดๆ
พลังงานเครื่องจักร ต้องการความเคลื่อนไหว
แต่พลังงานความรักต้องการความนิ่ง ความอ่อนโยน เมื่อเราไม่รู้จักตัวเองพอ อาจจำเป็นต้องนิ่งฟังคนอื่นบ้าง
การพูดทุกอย่างต้องเป็นไปเพื่อแก้ปัญหา
. . . มิ ใ ช่ เ พื่ อ เ พิ่ ม ปั ญ ห า การพูดด้วยความหวังดี ...
ถือเป็นพื้นฐานสำคัญของการแก้ปัญหา เงินและผลประโยชน์ อาจเป็นสิ่งที่โหดร้ายที่สุดที่มนุษย์ค้นพบ เมื่อใด...เอาเงินมาต่อรองกับความรัก เมื่อนั้น...ชีวิตจะไม่พ้นปัญหา เ พ ร า ะ โ ด ย ธ ร ร ม ช า ติ แ ล้ ว ในเบื้องต้นมนุษย์มักมองเห็นเงินมีค่ากว่าความรักเสมอ แต่ลงท้ายด้วยความโหดร้าย ก็เกิดมาจากเงินและผลประโยชน์นั่นเอง
ก า ร ค ร อ ง รั ก . . .
ต้องยุติคิดถึงคำว่า ได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างกัน เหมือนกับความเป็นมิตรภาพ ต้องไม่มีคำว่าได้เปรียบเสียเปรียบ
เราต้องแยกความรักออกจากเงินให้ได้
เรานำความรักมาค้าขาย . . . นำมาทำเป็นธุรกิจหากำไรเป็นวัตถุ . . . ไม่ได้ เ พ ร า ะ . . . รักคือนามธรรมคือสิ่งที่ละเอียดอ่อน
มาง่าย ไปเร็ว มองไม่เห็นตัวตน แต่สัมผัสได้ด้วยใจที่มีความรัก
เมื่อใดรักถูกซื้อด้วยเงิน ถูกต่อรองด้วยเงินตรา
แสดงว่ารักนั้นเริ่มจะกลายเป็นร้าย ข อ ใ ห้ ร ะ มั ด ร ะ วั ง !!!
การอยู่ร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปย่อมมีปัญหา
เมื่อคิดจะแก้ปัญหา ต้องยอมถอยให้กันคนละหนึ่งก้าว ด้วยเหตุนี้ การยอมแพ้บางครั้งจึงเรียกว่าเป็นชัยชนะ การหวังจะเอาชนะกัน . . . กลับพ่ายแพ้ แม้แต่ตัวเราเอง ยังขัดแย้งกับความคิดของตัวเองอยู่บ่อยๆ หาจุดลงตัวไม่ได้ ยังลังเลปั่นป่วนในความคิด นับประสาอะไรกับการจะต้องไปทำความเข้าใจคนอื่นเขา
เมื่อเราอยากเข้าใจใคร . . .
อย่าลืมเปิดใจให้เขาเข้าใจเราด้วยการปิดตัวเอง แต่พยายามเปิดคนอื่นเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ แ ล ะ . . . ไ ม่ ยุ ติ ธ ร ร ม
ความรัก คือความสมดุล
ความรัก คือผลผลิตแห่งความงอกงามของธรรมชาติ . . . ที่ เ กิ ด ขึ้ น ต า ม ฤ ดู ก า ล . . .
ถ้าความรักคือดอกไม้ ...
ความรักย่อมต้องการความพร้อมของฤดูกาล เหมือนไม้ที่ออกดอกงอกงามตามกาลเวลา
ความรักบังคับกันไม่ได้
เราอาจกักขังกายได้ แต่ใจกักขังไม่ได้ ความสมดุลของใจและใจนั่นเอง
คือ . . . ที่ ม า แ ห่ ง ค ว า ม รั ก . . .
เมื่อจะสร้างชีวิต ต้องสร้างความรักก่อน
เพราะความรักเกิดจากความสมดุล เกิดขึ้นอย่างธรรมชาติ . . . และ . . . เป็นธรรม กระทั่งเปลี่ยนรักให้เป็นความเข้าใจให้ได้
งานสร้างชีวิต เริ่มต้นจากความรัก
แต่ความรักมีอารมณ์บดบังเสมอ ถึงจุดหนึ่งเราพึงเปลี่ยนความรักเป็นความเข้าใจให้ได้ . . . เพราะ . . . ความรักเป็นเรื่องของอารมณ์ แต่ความเข้าใจเป็นเรื่องของเหตุผล
ไม่มีใครสร้างชีวิตได้ด้วยอารมณ์
แม้ชีวิตจะเริ่มต้นด้วยอารมณ์ก็ตาม
งานสร้างชีวิต . . .
จึงต้องการเหตุผลที่เป็นธรรม จ า ก ใ จ ทั้ ง ส อ ง ด ว ง ข อ ง คู่ ชี วิ ต
ท่านที่สนใจ สั่งซื้อหนังสือ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติอได้ที่
ไตรลักษณ์ ศูนย์หนังสือพระพุทธศาสนา ริมกำแพงวัดญาณเวศกวัน
E-mail : trilak_books@yahoo.com
โทร. 086-461-8505,02-482-7358