โดยทั่วไปแล้ว ชาวไทยพุทธมักมีพฤติกรรมความเชื่ออันหลากหลาย
และมีการประกอบพิธีกรรมต่างๆ เป็นประเพณี ที่สืบทอดกันมาเป็นเวลาช้านาน
ยาวนานมาแล้วที่ชาวไทยพุทธให้ความสำคัญ
ในเรื่องของการประกอบพิธีกรรม การมีพิธีการต่างๆ ในศาสนา ซึ่งชาวไทยพุทธนั้น พวกเขาก็จะไปวัดหรืออารามต่างๆ เพื่อทำบุญ โดยการ
ถวายสิ่งของจำเป็นแด่พระภิกษุสงฆ์ผู้ที่จะสวดมนต์ให้พรเป็นภาษาบาลีแก่พวกเขา โดยที่ไม่มีใครสนใจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของนิพพาน
ไม่มีใครที่จะมุ่งมั่นเืพ่อความสงวแห่งจิต
พวกเขาห่วงเฉพาะเรื่องความต้องการของตัวเองในแต่ละวัน
และสนใจเฉพาะเรื่องผลประโยชน์ของพวกพ้องเท่านั้น
ท่านพุทธทาสได้มองเห็นแล้ว่า สิ่งที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้นกับชาวพุทธ นั่นคือ ความเชื่อ
แนวคิดวิธีปฏิบัติต่อศาสนา ทำให้ประชาชนชาวพุทธเกิดขึ้นในจิต จนไม่สามารถเข้าถึงแก่นแท้
ของพุทธศาสนาได้ ท่านพุทธทาสภิกขุเป็นอรรถกถาจารย์ที่แตกฉาน
ในพระธรรมฝ่ายหีนยาน แต่ถึงแม้กระนั้นท่านยังคงศึกษาหาความรู้
เรื่องนิกายเซน ท่านจับเอาองค์คามรู้ของทั้งพุทธศาสนา เถรวาท และนิทายเซน เข้ามารวมกัน
จนกลายเป็นคำสอนที่ทันสมัยและมีความสมบูรณ์ ให้ชาวไทยพุทธ ได้มีโอกาสศึกษาหาความรู้จากสิ่งที่ท่านได้กระทำ
ปัจจุบันนี้พวกเราอาศัยอยู่ในโลกแห่งการแก่งแย่งแข่งขันกัน
มีเรื่องของผลประโยชน์และผลกำไร มาเป็นประเด็นสำคัญในการดำเนินชีวิต มีตัวเอง
เป็นศูนย์กลาง แห่งความต้องการ ทำทุกวิถีเพื่อประโยชน์
และเพื่อสอนงความอยากภายในจิตใจ
ถือเอาเรื่องของตัวเองเป็นใหญ่
จนไม่สนใจว่าจะกระทำสิ่งเลวร้าย หรือผิดศีลธรรมจรรยาแค่ไหน
บ่อยครั้งที่มนุษย์ทำสิ่งเลวทรามจนสุดที่จะบรรยายได้
เพียงเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนเท่านั้น
คำว่า "ตัวตน" คำนี้เอง ทำให้พวกเขามีพละกำลัง
มีความทะเยอทะยาน อยากที่จะขับเคลื่อนไป เพื่อค้นหาสิ่งที่ตัวเองต้องการ
จนไม่สนใจ และมองข้ามเรื่องของศีลธรรมไปอย่างง่ายดาย
จากหนังสือเรื่อง ตัวกูของกู
http://www.trilakbooks.com/index.php?mo=28&id=363932