เมื่อข้าพเจ้าทดลองความจริง-มหาตมาคานธี-750บาท

ข้าพเจ้าทดลองความจริง-มหาตมาคานธี

ราคา-750-บาท
THE Story of My Experiments with Truth

อัตชีวประวัติของมหาตมาคานธี
ผู้เขียน : มหาตมาคานธี
ผู้แปล : กรุณา กุศลาสัย

--- --- --- --- --- --- ---

📱สามารถโทร.สอบถามรายละเอียดอื่นๆได้ที่

086-461-8505, 02-482-7358, 087-696-7771

ส่งด่วนโดย เคอรี่ และสั่งซื้อทางไลน์@ โดยตรงได้เลยครับ

สอบถามรายละเอียด/สั่งซื้อได้ที่ ไลน์@

👨🏻‍💻 #LINE : @trilakbooks

หรือกดที่ ลิงค์ add Line ด้านล่างได้เลยครับ

https://line.me/R/ti/p/%40trilakbooks

--- --- --- --- --- --- ---

ติดตามกิจกรรมได้ที่ fanpage

FB : https://www.facebook.com/TRIPIDOKBOOKS/

--- --- --- --- --- --- ---

แนะนำหนังสือธรรมะออกใหม่ กิจกรรมการจัดพิมพ์และจัดส่งหนังสือธรรมะ 
และกิจกรรมการจัดส่งหนังสือพระไตรปิฎกทั่วประเทศ ในราคามูลนิธิของมหาวิทยาลัยฯ

https://trilakbooks.wordpress.com/

--- --- --- --- --- --- ---

#สำหรับท่านที่ประสงค์จะมาเยี่ยมชมด้วยตนเอง

#ศูนย์เผยแพร่พระไตรปิฎกและหนังสือพระพุทธศาสนาไตรลักษณ์

แผนที่สำหรับเดินทาง Google maps🚙

ศูนย์ เผยแพร่พระไตรปิฎกพุทธมณฑลสาย4

https://goo.gl/maps/Bym61zuguLE2

--- --- --- --- --- --- --- --- --- --- --- --- --- --- --- --- 

"

โลกแห่งวันพรุ่งนี้...
จะเป็นและต้องเป็นโลกที่ยืนอยู่บนพื้นฐานแห่ง อหิงสธรรม
นี้เป็นกฎเกณฑ์อันดับแรก
และจากกฎเกณฑ์นี้ ความอยู่เย็นเป็นสุขอื่นก็จะตามมา

ปัจเจกบุคคล กลุ่มชน อีกทั้งประเทศชาติทั้งหลาย
จะต้องยึดหลักอหิงสธรรม
อันได้แก่วิถีทางแห่งความรักและเมตตาปรานี

หากเป็นเช่นนี้ ข้าพเจ้าเชื่อว่า โลกแห่งวันพรุ่ง จะไม่มีความขาดแคลน
จะเป็นโลกที่ปราศจากสงคราม ปราศจากการปฏิวัติและการนองเลือด

ความเจริญก้าวหน้า จะต้องเกิดจากการเปลี่ยนแปลงโดยสันติวิธี

"

พวกพ้องของคานธี สังกัดอยู่ในวรรณะพานิยา และดั้งเดิมทีเดียว ดูเหมือนจะมีอาชีพขายของชำ

แต่นับได้เป็นเวลาสามชั่วคนมาแล้ว คือ ตั้งแต่ปู่ของข้าพเจ้ามา.. พวกตระกูลคานธีได้มีตำแหน่ง

เป็นนายกรัฐมนตรีในรัฐหลายรัฐแห่งแคว้นกาฐิยาวาฑ อุตตมจันท์ คานธี หรือ โตตา คานธี

ผู้เป็นปู่ของข้าพเจ้า คงจะเป็นคนมีอุดมการณ์อยู่ แต่เล่ห์กระเท่ห์ทางการเมือง

ได้บังคับให้ท่านต้องการจากรัฐโปร์พันทร

** พานิยา มาจากคำว่า วาณิช ซึ่งแปลว่าพ่อค้า สังกัดอยุ่ใน วรรณะแพศย์ (พ่อค้า)

แต่งงานตั้งแต่ยังเป็นเด็ก

ข้าพเจ้าไม่อยากจะเขียนบทนี้เลย เพราะข้าพเจ้ารู้ดีว่า

ข้าพเจ้าจะต้องเกิดความขมขื่นมาก ในการพรรณนาถึงเรื่องราวตอนนี้

แต่ถ้าข้าพเจ้าอวดอ้างตนเองว่า เป็นผู้บูชาความจริงแล้วไซร้ ข้าพเจ้า

ก็มิอาจจะหลีกเลี่ยงจากการกระทำเช่นนี้เสียได้ เป็นหน้าที่ของข้าพเจ้าที่เต็มไปด้วย

ความปวดร้าวเป็นอย่างยิ่ีง ที่จะต้องบันทึกไว้ ณ ที่นี้ว่า

ข้าพเจ้าต้องแต่งงาน เมื่ออายุ 13 ปี เมื่อข้าพเจ้าเห็นเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน

กับข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าปกครองอยู่ แล้วหวนคิดไปถึงการแต่งงานของข้าพเจ้า

แล้วไซร้ ข้าพเจ้าก็อดสงสารตนเองไม่ได้ และมิวายที่จะรู้สึกชื่นชมกับเด็กเหล่านี้

ผู้มีโชคดี ที่มิต้องรับชะตากรรมเช่นข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามองไม่เห็นว่า จะมีหลักโต้แย้ง

ทางศีลธรรมประการใดบ้าง ที่จะนำมาสนับสนุนประเพณีแต่งงานตั้งแต่อายุน้อยๆ

อย่างวิตถารเช่นนี้

ท่านผู้อ่านมิพึงต้องสงสัยเลยในข้อเขียนของข้าพเจ้าข้างต้นนี้ ข้าพเจ้า

ได้แต่งงานจริงๆ มิใช่หมั้นหรืออะไรทำนองนั้น ในแคว้นกาฐิยาวาฑ มีพิธี

ที่มีความหมายชัดแจ้งในตัวมันเองอยู่กัน สองพิธี คือ พิธีหมั้น และพิธีแต่งงาน

พิธีหมั้น คือการให้คำมั่นสัญญากันเป็นขั้นแรกระหว่างบิดามารดาของเด็กชายและเด็กหญิง

ในอันที่จะให้เด็กทั้งสองอยู่กินร่วมกัน เยี่ยงสามีภรรยา พิธีหมั้นนี้อาจจะบอกเลิกลากันได้

เช่น หากเด็กชายตายลง เด็กหญิงก็ไม่จำเป็นต้องรับสมญาว่า

เป็นหม้าย เรื่องหมั้น เป็นเรื่องของการตกลง