คือเมฆสีขาวทางก้าวเก่าแก่..เล่ม2.โดยติชนัทฮันห์

คือเมฆสีขาว

ทางก้าวเก่าแก่

โดย ติช นัท ฮันห์

ขนาด 14.5*21 cm จำนวน 242 หน้า

กระดาษถนอมสายตาสีครีม

ปกอ่อน

.......................

ข้อความปกหลัง

"เพราะเรากักขังตัวเองไว้ในความทุกข์ เราสูญเสีย

ความสามารถที่จะสัมผัส ความมหัศจรรย์ของชีวิต

เมื่อเราสามารถทลายอวิชชาลง เราย่อมค้นพบ

อาณาจักร ไพศาลของศานติภาพ ปีติภาพ อิสรภาพ

และนิพพาน นิพพาน คือการถอนรากถอนโคนความหลง ความโลภ และความโกรธ

นิพพาน คือสภาพแห่งศานติ ความเบิกบาน และอิสรภาพ

........................

คำนำสำนักพิมพ์ในการพิมพ์เล่ม2

นับแต่หนังสือ คือเมฆสีขาว ทางก้าวเก่าแก่ เล่ม ๑

ได้รับการตีพิมพ์ออกมาในปี ๒๕๓๙

แล้วมีผู้ถามถึง เล่ม ๒ ตลอด จนบัดนี้ ล่วงมาแล้ว ๔ ปี จึงสำเร็จเป็นเล่มได้

ด้วยความอุสาหของผู้แปล ที่แม้การงานประจำและงานสาธารณประโยชน์จะรัดตัว

แต่ก็สู้เจียดเวลาในแต่ละวันมาทำงานแปล และอาจารย์สุลักษณ์ได้เมตตา

ช่วยขัดเกลา

สำนวนภาษาและแก้ไขคำให้เหมาะสมยิ่งขึ้น รวมทั้งยังคอยติดตามเร่ง่รัด ให้งานคืบหน้าอยู่เสมอ

สำนักพิมพ์ตั้งใจจัดพิมพ์หนังสือเล่ม ๒ นี้ให้ทันครบรอบ ๖๔ ปี

ของพี่นิลฉวี เพื่อเป็นของขวัญร่วมกัน สมเจตนา อ.สุลักษณ์

ศิวรักษ์ ผู้ริเริ่มให้เกิดงานแปลชิ้นนี้ และสันติสุข/รสนา

ผู้มีความเพียรและอุตสาหะแปลงานนี้ หากมีงานบุญกุศลใดเกิดจากการงานนี้ ขอกุศลนั้นจงมีแด่

พี่นิลฉวีด้วยเทอญ

สำนักพิมพ์ โกมลคีมทอง

พฤษภาคม ๒๕๔๓

.......................

สารบัญ

คำนำสำนักพิมพ์ในการพิมพ์เล่ม ๒

คำในการจัดพิมพ์เล่มที่ ๑

จากผู้แปล แด่พี่นิลฉวี ในการพิมพ์เล่ม ๑

เริ่มต้นจากบทที่ ๓๐

เวฬุวัน

เราจะกลับมาในยามใบไม้ผลิ

นิ้วชี้มิใช่ดวงจันทร์

ญาติสันนิบาต

แสงอรุณ

ปฏิญาญาแห่งดอกบัว

ศรัทธาใหม่

โอ, ความสุขหนอ

รออรุณรุ่ง

คลุมแผ่นดินด้วยทองคำ

ใครเห็นแม่ของฉัน

ความรักคือความเข้าใจ

น้ำตาของทุกคนมีรสเค็ม

ธาตุทั้งหลายจะกลับมารวมตัวกันอีก

เปิดประตู

ใบประดู่ลายในอุ้งพระหัตถ์

ดำเนินตามยถากรรม

กลบโคลนด้วยฟาง

บทเรียนของแผ่นดิน

รำข้าวกำมือหนึ่ง

ขุมทรัพย์แห่งวิปัสสนาญาณ

ผืนนาบุญ

อยู่กับปัจจุบันขณะ

ดำรงสติมั่น

ดวงประกายพรึกฉายแสง

...................

 คำนำในการแปล

ในการแปลหนังสือเล่มที่ ๓

นี้มีข้อพิเศษอยู่ประการหนึ่งคือ

ภิกษูณีนิรามิสาได้ช่วยอ่านแก้ไขโดย

เทียงกับต้นฉบับภาษาเวียดนาม

ซึ่งมีถ้วยความที่ต่างไปจากฉบับภาษาอังกฤษ

อยู่บ้าง ผู้แปลขอขอบคุณ ไว้ ณ ที่นี้

และหวังอย่างย่ิงว่าผู้อ่านจะได้รับทั้งวรรณรส

และธรรมรสไปพร้อม ๆ กัน แน่นอน ความดี

อันเกิดจาการแปลหนังสือเล่มนี้ขอมอบแด่

พี่นิลฉวี ศิวรักษ์ ผู้เป็นเบญกัลยาณีศรีสตรีของพวกเรา

.............................................................................