อริยสัจ สำหรับคนสมัยใหม่+CD MP3 (โดย..หลวงพ่อพุทธทาส)

อริยสัจ สำหรับคนสมัยใหม่+CD MP3 (โดย..หลวงพ่อพุทธทาส) 

ขนาด : 14x19cm

จำนวน : 180 หน้า

วัสดุ : กระดาษถนอมสายตา สีครีม (ปกอ่อน)

........................................................................................................................

สารบัญ

อริยสัจที่ ๑ ความทุกข์

อริยสัจที่ ๑ (ต่อ)

อริยสัจที่ ๒ สมุทัย...เหตุให้เกิดทุกข์

อริยสัจที่ ๓ นิโรธ...ความดับทุกข์

อริยสัจที่ ๔ มรรค...ทางให้ถึงความดับทุกข์

สรุป อริยสัจ

คำนำ

   หนังสือ เรื่อง อริยสัจ สำหรับคนสมัยใหม่ เล่มนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้นศึกษาพุทธศาสนา

เพราะจะช่วยให้เข้าใจหลักเกณฑ์ และเค้าโครงใหญ่ของอริยสัจ ซึ่งเชื่อว่าผู้มีความรู้ ความเข้าใจเพียงเท่านี้

แล้วลงมือปฏิบัติให้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ก็เพียงพอที่จะดับทุกข์ได้ ซึ่งหากผู้ใดสนใจศึกษาให้ละเอียดลึกซึ้ง

ยิ่งขึ้นไป ขอแนะนำให้อ่าน...อริยสัจ จากพระโอษฐ์...เล่มใหญ่ ซึ่งเป็นผลงานชิ้นเอกของท่านพุทธทาส

เช่นเดียวกัน หนังสือเล่มนี้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนยุคปัจจุบันที่มีปัญหามาก หากนำไปปฎิบัติได้ย่อม

สามารถดับทุกข์ได้จริง  

......................................................................................................................................

............................................

อริยสัจ สำหรับคนสมัยใหม่

ข้อความนำเรื่อง

เรื่องที่จะบรรยายในวันนี้คือ เรื่อง อริยสัจ แต่อยากจะทำความเข้าใจอะไรบางอย่าง

ก่อนที่จะพูดเรื่องอริยสัจให้เป็นที่เข้าใจกัน เชื่อว่าจะเป็นผลดีมาก นั่นคือคำว่า Buddhism นั่นเอง (๑)

Buddhism พุทธศาสนา พุทธธรรม และพรหมจรรย์

ถ้าคำว่า suffix-"ism" หมายถึง ความเห็นหรือความคิดอันหนึ่งที่

เสนอเข้ามา มิได้เป็นการเห็นอย่างแจ่มแจ้งชัดเจนตามธรรมชาติ คือ

ไม่เป็น realization มันก็ใช้กันไม่ได้กับพุทธศาสนา คือพุทธศาสนา ไม่ได้เป็น -ism อันหนึ่ง (๒)

ขออภัยที่กล่าวคำว่า Buddhism นี้เป็นคำที่พวกฝรั่งตั้งกัน

ขึ้นเอง มันจะตางหรือไม่ตรง ก็ขอให้คิดดู -ism มันจะหมายถึง truth

หรือสัจจะได้หรือไม่ เข้าใจว่าจะไม่ใช่ จะเป็นเพียง opinion อันใดอันหนึ่ง

เสนอขึ้นมาให้เป็นที่รับรอง  เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว

ขออย่าได้ถือเอาความหมายคำว่า -ism ให้แก่พุทธศาสนาเลย (๓)

ทีนี้ก็มาถึง คำอีกคำหนึ่ง ซึ่งคนไทยตั้งขึ้นเอง เรียกว่า พุทธศาสนา

นี้ก็ไม่ถูก เพราะคำว่า พุทธศาสนานี้มันเป็นในแง่ปริยัติมากเกินไป

ตัวพุทธศาสนาไม่ใช่ปริยัติ ฉะนั้นคำไทย ที่เรียกว่า พุทธศาสนา

ก็ยังไม่เหมาะที่จะใช้กับสิ่งที่เรียกว่า Buddhism หรือตัวแท้ของพุทธศาสนา (๔)

ทีนี้มีอีกตัวหนึ่งซึ่งเข้าใจว่าจะถูกต้องที่สุด และได้เคยใช้คำนี้ในการบรรยาย เมื่อ ๔๕ ปีมาแล้ว

ที่กรุงเทพฯ คือคำว่า พุทธธรรม (๕)

คำว่า ธรรมในภาษาบาลีนี้มันกว้างมาก กว้างได้หลายทิศทาง

คำว่าธรรมนี้แปลว่า หนทาง เช่นเดียวกับคำว่า เต๋า นั่นแหละ คำนั้นก็แปลว่า ทาง

แล้วก็หมายถึงคำว่า ธรรมนั่นเอง ธรรมหมายถึง หน้าที่หรือ duty ก้ได้

ธรรมยังหมายถึง truth คือ สัจจะ คำว่า พุทธธรรม

จึงเหมาะที่สุดที่จะใช้เป็นเชื่อของพุทธศาสนา (๖)

จึงขอเสนอคำว่า "พุทธธรรม" เป็นตัวที่เป็นหลักสำหรับจะศึกษาและยัง

จะขอแนะไปถึงคำเกาที่ใช้อยู่ครั้งก่อนพุทธกาลในอินเดีย

สมัยพระพุทธเจ้าเอง หรือคำที่ออกมาจากปากของพระพุทธเจ้าเอง

มันกลายเป็นมีคำอื่น คือคำว่า พรหมจรรย์ ไม่ใช่พุทธธรรมไม่ใช่พุทธศาสนา

พระพุทธเจ้าไม่เคยใช้คำนี้กับคำสอนของพระองค์

หรือตัวศาสนาของพระองค์ท่านจะใช้คำว่า พรหมจรรย์ คือ การปฏบัติที่ประเสริฐ

การปฏิบัตินี้ จะใช้คำว่าอะไรก็คงจะลำบากเหมือนกัน

จะเป็นคำ commitment หรืออะไรทำนองนี้ แต่มันแปลว่า

ประเสริฐ

พรหมะ แปลว่าประเสริฐ จริยะ แปลว่า ประพฤติหรือกระทำ

พระพุทธเจ้าเองทรงใช้คำว่า พรหมจรรย์ คือการประพฤติกระทำที่ประเสริฐ

ที่เป็นไปเพื่อการดับทุกข์โดยตรง นี่คำที่พระพุทธเจ้าเคยใช้ (๗)

.......................................

   ชีวิตไหนที่มีปัญหา ชีวิตนั้นต้องการความรู้เรื่องอริยสัจ ปัญหาชีวิตนี้ก็รู้จักกันพอสมควรแล้ว เป็นภาระหนัก

ยุ่งยากไปหมด ก็เป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยการต่อสู้ดิ้นรน ไม่มีการพักผ่อน ความรู้เรื่องอริยสัจ จะทำให้เรามีการ

พักผ่อน แล้วก็มีกำลังสติปัญญา มีอะไรที่จะต่อสู้ปัญหาแห่งชีวิต...