หนทางพ้นทุกข์

นิพพานมีอยู่หนทางสู่นิพพานมีอยู่

พระพุทธเจ้าผู้บอกหนทางก็มีอยู่ ถ้าไปถูกทาง ก็ถึงจุดหมายได้

.............................

หนทางพ้นทุกข์

THE PATH OF FREEDOM

โดย.พลตรี สัญชัย บุณทริกสวัสดิ์

ขนาด 14.5*21 cm

ปกอ่อน จำนวน 216 หน้า กระดาษถนอมสายตา

..........................................................

สารบัญ

๑.ปัจจัยที่ทำให้บุคคลไม่อาจบรรลุเป้าหมายในพระพุทธศาสนา

(หรือแม้บรรลุแล้วก็ไม่อาจดำรงรักษาไว้ได้)

๒.สภาวะสูงสุดแห่งการบรรลุเป้าหมายในพุทธศาสนา

๓.การทำให้แจ้ง ซึ่ง "อริยสัจ" (รู้อริยสัจ ๔ ตามเป็นจริง)

๔. สภาวะแห่ง "สุญญตา" ที่ต้องเข้าถึงด้วย "ภาวนา"

๕.สภาวะแห่ง "นิพพาน" ที่ต้องเห็นด้วยตนเอง

๖. การถึง "สัญญาเวทยิตนิโรธ" ประสบการณ์ แห่งการบรรลุเป้าหมายสูงสุดของสมาธิภาวนา

๗.การสิ้นอาสวะ เป้าหมายสุดท้ายของ "สมาธิภาวนา"

ที่ต้องเห็นได้ด้วยตัวเองในสมาธิ

๘.การบรรลุ "อรหัตตผล"

๙. อุตตริมนุสสธรรม

๑๐. พุทธกับเทวะ พุทธศาสนากับเทพยดาและศาสนาพราหมณ์ (ฮินดู)

๑๑.สาธุชนควรทำบุญอย่างไรจึงได้ผลบุญมาก

.........................................

ที่สุดแห่งประสบการณ์การเดินทางของจิต

ตามเส้นทางที่พระพุทธเจ้าชี้บอกไว้ในพระไตรปิฎก ในพระพุทธศาสนาไม่มีการผูกขาดความรู้

ความฉลาด และความสามารถในการตรัสรู้สัจธรรมไว้เพื่อผู้หนึ่งผู้ใดโดยเฉพาะ

ผู้ใดบำเพ็ญบารมีเพียงพอ ก็อาจเป็นพระพุทธเจ้าได้ทั้งนั้น สัจธรรมจึงเป็นของกลาง

ผู้ใดหมั่นพินิจพิจารณาค้นคว้า ก็สามารถตรัสรู้ได้

.................................

ปัจจุบันการปฏิบัติตามแนวทางของพระพุทธศาสนาได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากผู้คนทั่วโลก เฉพาะในบ้านเรานั้นดูเหมือนว่า วิธีปฏิบัติสมาธิที่ สำนักกรรมฐานทั่วไปใช้กันอยู่ ณ เวลานี้ มีอยู่หลากหลายแนวทาง อย่างไรก็ตามธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนเพื่อความหลุดพ้นนั้นควรที่จะเชื่อมโยงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ดังนั้นไมท่ว่าจะปฏิบัจิในแนวทางใด ขอเพียงผู้ปฏิบัติมีความเข้าใจอันถูกต้องก็ล้วนมีโอกาสที่จะเข้าถึงจุดมุ่หมายคือพระนิพพานด้วยกันทั้งสิ้น หนังสือเล่มนี้คือผลจากความพยายามของผู้เขียนที่จะนำเสนอ "แนวทางการปฏิบัติสมาธิ" โดยการเรียบเรียงเนื้อหาขึ้นจากประสบการณ์ การปฏิบัติธรรมด้วยสมาธิภาวนาอย่างจริงจังและต่อเนื่องยาวนาน และจากการศึกษาค้นคว้าพระไตรปิฎกและเอกสารสำคัญอันเกี่ยว ข้องกับ การปฏิบัติสมาธิโดยตรง ทั้ง "วิสุทธิมรรค" และ"วิมุตติมรรค" โดยได้บันทึกความรู้ความเข้าใจที่สอดประสานกันระหว่างภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติที่ตนเองได้ประสบมา เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้สนใจ ได้นำไปอ่านและฝึกปฏิบัติ

สำหรับงานเขียนชิ้นนี้ ผู้เขียนมุ่งหวังให้เป็นเพียงเครื่องมือสื่อความรู้ความเข้าใจระหว่างเพื่อนผู้ปฏิบัติธรรมด้วยกันเท่านั้น มิได้มีความต้องการจะแทรกแซง ความเชื่อและความเห็นของผู้ใด เพราะเมื่อถึงที่สุดแล้ว เราทั้งหลายที่เป็นชาวพุทธต่างก็เห็นพ้องกันในความจริงอย่างหนึ่งว่า "พระพุทธศาสนามิใช่เรื่องสำหรับพูดเท่านั้น แต่ต้อง อาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในทางปฏิบัติด้วย"